RSS

Category Archives: บทความของ อ. ส.แสงตะวัน

โหราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์แน่นอน… โดย อาจารย์ ส แสงตะวัน

            ปัจจุบันมีสำนักโหรหลายแห่งทำการเปิดสอนกันอย่างกว้างขวาง บางแห่งเพ้อฝันคิดจะเลื่อนฐานะเป็นมหาวิทยาลัยก็มีเหมือนกัน มีอยู่จำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องเลิกล้มอย่างผิดคาดหวัง บางคนเรียนจบจากครูผู้สอนนับเป็นสิบสำนัก แต่ไม่สามารถนำวิชาไปพยากรณ์ผู้อื่นได้ตามวัตถุประสงค์ และหารู้ไม่ว่าที่เราปลุกปล้ำจำเจกันอยู่ทุกวันนี้ ล้วนแต่พบเพียงเปลือกนอกทั้งนั้น จนเกิดความท้อถอย ซึ่งเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินที่ได้ลงทุนไว้สูงไม่สามารถประเมินค่าได้   ทั้งนี้เนื่องจากผู้เขียนได้พบปะบุคคลเหล่านี้ปรารภให้ฟังอยู่เสมอ บางคนยังวิงวอนขอให้ผู้เขียนเปิดการสอน โดยตั้งค่ายกครูเป็นเงินจำนวนสูงแทบไม่น่าเชื่อ แต่ผู้เขียนไม่ยินยอมรับสอน ใช่ว่าจะหวงวิชาตามที่เป็นข่าวลือมากระทบหูอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นวิชาที่เรียนยากยิ่งจริงๆ ต้องใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนกว่า ๕ ปีขึ้นไป จึงจะพอเห็นลู่ทางที่โปร่งใสได้ เมื่อเรียนรู้จริงตามที่ครูสอน ไม่จำเป็นต้องโฆษณา บุคคลที่มาดูนั่นแหละเขาจะโฆษณาให้เอง

            สังเกตมาเกือบ ๕๐ ปีแล้ว พบเห็นร่ำเรียนกันแต่เพียงเปลือกนอกเท่านั้น ส่วนเนื้อหรือแก่นไม่ค่อยได้พบเห็น ที่กล่าวมานี้มิได้เจตนาจงใจจะดูหมิ่นผู้ที่กำลังหลงใหลได้ปลื้มอยู่ในปัจจุบัน   เนื้อหรือแก่นของวิชาโหราศาสตร์ยังไม่เคยมีสำนักใดเขียนเป็นตำราไว้เลย จะมีบ้างมักเป็นแบบอ้างอิงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นเหตุให้ผู้ศึกษาเกิดหลงทางเข้าป่าเข้าพงก็มี

            เราจะเรียนกันให้ถึงเนื้อและแก่นได้นั้น จะต้องเรียนจากครูโดยตรงเท่านั้น เพราะเป็นทั้งรูปและนามธรรมคละเคล้ากันไป   อุปมาเช่นผลไม้ที่เราเคยรู้จัก ระยะแรกที่เราเห็นรูปพรรณสัณฐาน อาจบอกได้ทันทีว่าชื่อผลอะไร แต่อาจไม่รู้ว่าสีสันเนื้อในหรือมีรสชาติอย่างไร และเมล็ดที่ฝังอยู่ในเยื่อเนื้อมีรูปร่างลักษณะและรสชาติเป็นอย่างไรดังนี้เป็นต้น   แต่เราจะพึงเรียนรู้ได้จากครูผู้สอนที่เชี่ยวชาญชำนาญเท่านั้น เพราะวัตถุหรือสารต่างๆ ที่เกิดในโลกย่อมเป็นปรากฏการณ์ด้านวิชาโหราศาสตร์ทั้งนั้น   ฉะนั้นใครก็ตามหากอยากจะได้พบกับของจริง จะต้องมีความเพียรพยายามที่สูงมากจึงจะสำเร็จได้

            เรื่องธาตุทั้ง ๔ อันได้แก่ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุน้ำ และยังมีวิญญาณธาตุกับอากาศธาตุร่วมด้วย   ธาตุเหล่านี้เป็นมูลเหตุแห่งต้นธาตุซึ่งจะต้องศึกษากันอย่างหน่วงหนัก เนื่องจากโลกของเรามีสัณฐานทรงกลมมีสถานภาพเป็นดาวบริวารดวงหนึ่งของดาวอาทิตย์ จักรวาลได้แบ่งโลกออกเป็น ๑๒ ส่วนเรียกว่า สนามเรือนธาตุ หรือเรียกย่อๆ ว่า เรือนเกษตร   ส่วนวิถีวงจรของดาวอาทิตย์ จักรราศีก็ถูกแบ่งออกเป็น ๑๒ ส่วนเหมือนกันเรียกโดยย่อว่า ราศี   มีวิถีโคจรที่ผิดแผกแตกต่างกัน เรื่องนี้เขียนอธิบายกัน ๕ ปีก็ไม่จบ

            ก่อนจะพบของจริงกับอาจารย์คนใหม่ ผู้เขียนได้เรียนแบบมหาทักษามาก่อนกว่าสามปีศึกษาจนกระทั่งถึงขั้นคำนวณพิชัยสงครามและอื่นๆ จนสิ้นกระบวนความ   พอมาพบกับอาจารย์คนใหม่ วันแรกท่านถามถึงวิชาที่เคยศึกษามาแล้ว ว่ามีอะไรบ้าง   ผู้เขียนได้แจกแจงจาระไนจนสิ้นไส้พุง   ท่านอาจารย์นั่งคิดอยู่นิดหนึ่ง จึงถามผู้เขียนว่า ผูกดวงเป็นแล้วหรือยัง ท่านยิงคำถามออกมาเช่นนี้ เล่นเอาผู้เขียนงวยงงเหมือนไก่ตาแตก นึกเอะใจ ก็เรียนมาสามปีแล้ว ด้วยเหตุใดท่านกลับมาถามว่า ผูกดวงเป็นแล้วหรือยัง จะด้วยบารมีตนเองหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ จึงตอบไปด้วยความฉงนของตนเอง่า ผูกดวงได้เพียง งูๆ ปลาๆ ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องหรือไม่   เห็นจะต้องฝึกหัดผูกดวงอีกประมาณ ๖ หรือ ๘ เดือน แล้วจึงค่อยเริ่มเรียนกันอย่างจริงจัง   ผู้เขียนรับคำท่านด้วยสดุดี ทั้งๆ ที่สมองยังมึนงงไม่หาย แล้วท่านก็หาฤกษ์ยามพร้อมด้วยเครื่องบูชายกครูตามธรรมเนียมโบราณ

            ถึงวันกำหนดนัดหมายพิธียกครู ผู้เขียนได้นำเครื่องสังเวยพร้อมด้วยเครื่องบูชาครูอย่างครบถ้วน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ผ้าขาวยาว ๘ คืบ   เทียนขี้ผึ้งแท้หนัก ๑ บาทหนึ่งคู่   เมื่อเสร็จพิธีรับเป็นศิษย์แล้ว ท่านได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เจิมหน้าผากด้วยคาถาอาคม พร้อมกับให้ศีลให้พรตามพิธีระหว่างศิษย์กับครู อันเป็นเสร็จพิธี

            ก่อนจะลาจากเรือน ครูท่านได้สั่งสำทับว่า หากเราอยากจะเป็นโหรที่ดี และเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม เราต้องมีความอดทนและอดกลั้นต่อสิ่งภายนอก ซึ่งอาจจะแฝงเข้ามาเพื่อบ่อนทำลายความมุ่งมั่นจนล้มสลาย หัวใจอันเป็นหลักในการเอาดีทางโหราศาสตร์ อยู่ที่เรื่องระบบธาตุและความหมายของธาตุต่างๆ และยังมีกฎเกณฑ์อื่นๆ ที่ต้องศึกษาอีกมาก   ถ้าหากไม่ยอมท้อแท้หรือท้อถอยเสียก่อน ชัยชนะจะต้องเป็นของศิษย์อย่างแน่นอน   ระยะแรกเริ่มต้นลงมือเรียน เราจะเริ่มตั้งแต่ชั้นอนุบาลเรื่อยๆ ไปก่อน ต้องใจเย็นอย่าทำเป็นคนใจร้อน ถ้าเป็นคนใจร้อนจะประสบกับความสำเร็จยากยิ่งนัก

            การเริ่มต้นต้องเริ่มกันเป็นจุดๆ ตั้งแต่ดาวเดี่ยว ดาวคู่ ดาวตับ และหมวดหมู่ สามารถแปลรหัสออกมาเป็นภาษาโหรได้อย่างกว้างขวาง   ดาวเดี่ยวหมายถึงความหมายของดาวดวงเดียว   ระยะแรกอาจจะรู้สึกไม่ยากนักสำหรับผู้ที่เคยศึกษามาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ง่ายนักเมื่อคราวเรียนกันอย่างจริงจัง เพราะดาวทุกดวงย่อมขยายคลื่นแสงได้รอบตัว จะต้องชาญฉลาดมีไหวพริบฉับพลัน รู้เท่าทันอิทธิพลดวงดาวในขณะนั้น ซึ่งอาจมีทั้งโยคทั้งเบียนหรือร่วมเล็ง เป็นต้น

            ขั้นที่ ๒ เราเริ่มเรียนวิชาดาวคู่ เรื่องดาวคู่เห็นจะต้องใช้สมองที่ค่อนข้างหนักมาก ซึ่งมีจำนวนเกือบร้อยคู่ ในแต่ละคู่เป็นเรื่องระหว่างระบบธาตุทั้งนั้น   ยิ่งพอเรียนไปถึงดาวตับ ดาวหมวดหมูด้วยแล้ว ถ้าไม่อดทนและขยันใกล้ชิดกับครูผู้สอนจริงๆ แล้ว เห็นจะต้องแจวลาโรงไปแน่ๆ   ในที่สุดต้องฝึกหัดผูกดวงใหม่อีก ๑ ปี จึงพอจะเข้าใจได้   ท่านเตือนว่าควรงดการจดบันทึกลงสมุด หรือหากจะจดบ้างก็เพียงเล็กน้อย ที่เห็นว่ายากและสับสน ควรจะบันทึกลงในสมองให้มาก เพราะสมุดกับสมองนั้นแตกต่างกัน ควรศึกษาให้แตกฉานอยู่ในสมอง ถึงคราวนำมาใช้จะรู้สึกว่าง่าย และรวดเร็วต่อการพยากรณ์   ฉะนั้น ใครก็ตามที่คิดเอาดีทางด้านโหราศาสตร์จะต้องทบทวนคิดดูให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายและเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์   สวัสดี

 

 

 

ป้ายกำกับ: , , , ,