RSS

Tag Archives: ดาวองค์เกณฑ์

วาสนาของชีวิตถูกลิขิตจากดาวองค์เกณฑ์… โดย ศรรวสา

                                                                     

โชควาสนาของชะตาชีวิต ได้ถูกลิขิตไว้แล้วตั้งแต่เกิดมา ว่าต้องเป็นไปแบบนั้นแบบนี้  ชะตานี้ได้เป็นเศรษฐีใหญ่ ,  ชะตานี้มีชื่อเสียง,  ชะตานี้จะมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงและอื่นๆ อีกมากมาย เพียงแต่ว่าเราจะค้นหาในดวงชะตาเจอหรือไม่เท่านั้นเอง  ดวงเป็นสิ่งที่กำหนดอนาคตของบุคคลนั้น  ในแต่ละดวงจะกำหนดไว้ว่าขีดจำกัดของเรื่องต่างๆ ของบุคคลนั้นอยู่ในระดับไหน แต่ก็ใช่ว่าดวงดีแล้วจะไม่มีการล้มหรือตกยาก เพียงแต่คนที่มีพื้นฐานดวงดี ต่อให้ล้มลุกคลุกคลานไปกี่รอบ ก็จะสามารถกอบกู้ขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากพวกที่โชคดีจากดาวจรในแต่ละปี ถึงแม้จะโชคดีในปีนั้น แต่ผลสุดท้ายก็กลับสู่สภาพพื้นฐานเดิม

ดาวองค์เกณฑ์ เป็นชุดดาวที่บ่งบอกถึงโชคชะตาวาสนาในดวงของแต่ละบุคคล ซึ่งมีเขียนไว้ในตำราของหลายๆ อาจารย์ บ้างก็ว่าใช้ได้จริง บ้างก็ว่าใช้ไม่ได้จริง ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมาหลายยุคหลายสมัย ทั้งนี้ทั้งนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ  จึงอยากให้ผู้ที่ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทย ได้พิจารณาไปตามบทความนี้ แล้วลองพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าวิชานี้ใช้ได้จริงหรือไม่

หลักครูโหรโบราณ ได้แบ่งดาวองค์เกณฑ์ไว้เป็น 4 จำพวกด้วยกัน คือ

1. องค์เกณฑ์นระ ได้แก่ ราศีมิถุน, ราศีกันย์, ราศีตุลย์, ราศีธนู และราศีกุมภ์ จะต้องมีดาวองค์เกณฑ์ คือ ๑๕๗  (เป็นดาวบังคับ) กุมลัคนา

2. องค์เกณฑ์อัมพุ ได้แก่ ราศีมีน, ราศีกรกฏ, และราศีมังกร จะต้องมีดาวองค์เกณฑ์ คือ ๒๔๕๖ (เป็นดาวบังคับ) อยู่ในภพที่ 4 (ภพพันธุ)

3. องค์เกณฑ์กีฏะ ได้แก่ ราศีพิจิก จะต้องมีดาวองค์เกณฑ์ คือ ๓๘ (เป็นดาวบังคับ)อยู่ในภพที่ 7(ภพปัตนิ)

4. องค์เกณฑ์ปัสวะ ได้แก่ ราศีเมษ, ราศีพฤษภ และราศีสิงห์ จะต้องมีดาวองค์เกณฑ์ คือ ๕๑๒๓ (เป็นดาวบังคับ) อยู่ในภพที่ 10 (ภพกัมมะ)

(หลักครูโหรโบราณเรื่องดาวองค์เกณฑ์ ข้างต้นนี้ผู้เขียนได้คัดลอกมาจากหนังสืออ่านชะตาชีวิตด้วยตนเอง ของ อ. จำรัส ศิริ  เพราะผู้เขียนทราบว่าผู้ศึกษาโหราศาสตร์ไทยส่วนใหญ่ต้องอ่าน เพื่อการสืบค้นวิชา เพราะว่าในช่วงปี 2500 ท่านเป็นผู้ที่ใช้หลักครูโหรโบราณมากที่สุด)

ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึง องค์เกณฑ์นระ ก่อน เพราะมีถึง 5 ราศี ซึ่งถือว่ามากที่สุด  ผู้เขียนขอยกบทกลอนที่กล่าวถึงองค์เกณฑ์นระ ดังนี้

นะระสุริยะเยื้อง       รังสี

โสระชีวะโดยมี         ถูกต้อง

สามองค์เทพโสภี      กุมลัคน์

ดวงชะตาใดดั่งพร้อง  ยศนั้นนาพัน

ในสมัยก่อนการจะวัดยศถาบรรดาศักดิ์กัน ก็จะขึ้นอยู่กับที่ดินที่นา เพราะจะได้รับพระราชทานให้เมื่อได้รับการแต่งตั้งยศตำแหน่ง  การที่จะได้ที่นาเป็นพันหรือเป็นหมื่นไร่นั้น จะต้องมีตำแหน่งเป็นคุณพระ ขึ้นไป จากคำกลอนระบุไว้ว่า “สามองค์เทพโสภี      กุมลัคน์ ดวงชะตาใดดั่งพร้อง  ยศนั้นนาพัน” ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีดาว 3 ดวงคือ ๑๕๗ กุมลัคจึงจะถือว่าได้องค์เกณฑ์ จะขาดดวงใดดวงหนึ่งมิได้ ถือว่าไม่สมบูรณ์ 

เหตุที่ต้องมีดาว 3 ดวงกุมลัคจึงถือว่าสมบูรณ์นั้น อาจารย์ของผู้เขียนได้บอกไว้ว่า การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะเป็นใหญ่เป็นโตได้ ถึงแม้จะมาจากคนต่ำเตี้ยเลี่ยดินก็ตาม แต่ก็สามารถนำพาตัวเองให้เป็นใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือหรือกล่าวขวัญถึงได้(ซึ่งตรงนี้มีบุคคลตัวอย่างจากปัจจุบันและในอดีตให้เห็นกันอยู่มิใช่น้อย) จะต้องพรั่งพร้อมด้วยคุณสมบัติ 3 ประการ ซึ่งเกิดจากความหมายของดาวทั้ง 3 ดวงของดาวองค์เกณฑ์นั่นเอง คือ

1. ดาวอาทิตย์ ๑ ซึ่งเป็นดาวของความมีเกียรติ มีชื่อเสียง มีบารมี

2. ดาวพฤหัส ๕ ซึ่งเป็นดาวของความมีสติปัญญา ความรอบรู้

3. ดาวเสาร์ ๗ ซึ่งเป็นดาวของหลักทรัพย์ ที่ดิน  ข้าทาส บริวาร

เมื่อมีองค์ประกอบครบทั้ง 3 แล้ว จึงเรียกได้ว่าสมบูรณ์ การมียศถาบรรดาศักดิ์เป็นคุณพระหรือพระยาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก  ในยุคปัจจุบันเราสามารถเห็นดาวองค์เกณฑ์เหล่านี้อยู่กับบุคคลที่มีชื่อเสียง มหาเศรษฐี แต่ที่สำคัญต้องวางลัคนาให้ถูก(ส่วนใหญ่เรื่องเวลาเกิดจะไม่ค่อยแน่นอน) เพราะเมื่อเปิดดวงขึ้นมา อาจารย์ผู้เขียนจะบอกเลยว่า ถ้าเป็นลัคนานี้ ต้องรวย  ต้องดัง  ต้องเก่ง  ถ้าผิดไปจากนี้ ไม่ใช่ลัคนานี้แน่นอน  (ส่วนตำแหน่งคุณพระหรือพระยาในสมัยก่อน จะเทียบกับตำแหน่งของสมัยนี้นั้น ผู้เขียนเองยังไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะเทียบกับตำแหน่งไหน แต่จากประสบการณ์ของตัวเองจะเห็นอยู่ในดวงของนายตำรวจที่มียศพลโท ขึ้นไป แต่มิได้หมายความว่าคนเป็นใหญ่เป็นโตหรือมีทรัพย์มากมายได้ จะต้องเป็นเกณฑ์นระเท่านั้น เพราะยังมีเกณฑ์อื่นๆ อีกที่จะสามารถผลักดันให้ผู้นั้นดีเด่นได้เช่นกัน)

ส่วนข้อสงสัยที่ว่า มีดาว 1 ดวงหรือ 2 ดวงกุมลัค และเป็นดาวบังคับขององค์เกณฑ์นระ ด้วยนั้น จะส่งผลอย่างไร ตรงนี้เปรียบเสมือนว่า โดยปกติของคนเรานั้น มือ1 ข้างต้องมี 5 นิ้ว  แต่ถ้ามี ข้างละ 3 นิ้ว จะใช้ได้หรือไม่ สำหรับผู้เขียนก็คงตอบว่า ใช้ได้ เพียงแค่ไม่สมบูรณ์เท่านั้น การหยิบจับหรือทำสิ่งใดจะเป็นไปด้วยความยากลำบากกว่าผู้ที่มีนิ้วมือครบ  ผู้อ่านหลายท่านอาจจะเคยพบเห็นบุคคลต่างๆ เช่น  บางคนเก่งแต่ไม่ดัง บางคนดังแต่ไม่เก่ง บางคนมีหน้าที่การงานดีแต่แทบจะไม่มีกินก็มี นั่นเป็นเพราะขาดความสมบูรณ์ของชุดดาวองค์เกณฑ์ แต่จะไปดีเด่นตามความหมายดาวที่กุมลัคนั้นแทน  ผู้เขียนขอยกดวงตัวอย่าง เพื่อประกอบการพิจารณา  ดังนี้

ชะตานี้เป็นชาย ลัคนาราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นเกณฑ์นระ เกณฑ์นี้เป็นการสร้างความยิ่งใหญ่ ความมั่งคั่งให้กับตัวเองด้วยตัวเอง เรียกได้ว่า เป็นการก่อร่างสร้างตัวด้วยตัวเองจากดินสู่ดาวโดยไม่พึ่งพาอาศัยครอบครัวเดิม (เกณฑ์ชุดนี้ไว้ใช้กับบุคคลธรรมดา ไม่เกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์เพราะถ้าเป็นเชื้อพระวงศ์จะมีเกณฑ์พิเศษเฉพาะ) จะเห็นได้ว่า ชะตานี้มีดาวบังคับในชุดองค์เกณฑ์อยู่ 2 ดวงด้วยกัน คือดาว ๑ และดาว ๕ จากที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น ดวงชะตานี้ถึงแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ในชุดองค์เกณฑ์นระ แต่ยังถือได้ว่าดาวนั้นได้เกณฑ์และจะได้ผลตามความหมายดาวที่กุมลัค คือ

ดาว ๑ กุมลัค “ชะตานี้ต้องมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักอย่างแน่นอน ซึ่งตรงนี้จะเป็นชื่อเสียงและความมีเกียรติในหมู่สังคมการงานที่เจ้าชะตาอยู่หรือเข้าไปร่วมกลุ่ม” เรียกได้ว่าดังทั้งในถิ่นของตัวเองและสถานที่ที่เจ้าชะตาเข้าไปร่วมกลุ่มด้วย ถ้าทำงานจะต้องเป็นระดับหัวหน้า มีตำแหน่งสูง มีบารมี มีคนเคารพยกย่อง ตามกฎของดาวองค์เกณฑ์ คือดาวใดได้องค์เกณฑ์จะสยบความเป็นนิจ เป็นประ หมายถึงว่าถึงแม้ดาวนั้นจะเป็นนิจ เป็นประ หรือเป็นกาลี ก็ไม่มีผลมาบั่นทอนใดๆ ทั้งสิ้น

การมีชื่อเสียงด้วยความหมายดาว๑ อย่างเดียวนั้น ไม่ว่าจะเกิดจากการทำความดีหรือการทำความไม่ดีก็ตาม แต่ถ้ามีคนรู้จักมากมายหรือเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ก็ถือว่ามีชื่อเสียงแล้ว แต่ชื่อเสียงมักมาพร้อมชื่อเสียหรือเสียชื่อ เพราะยิ่งมีคนนิยมยกย่องเท่าไหร่ ก็มีคนไม่ชอบใจเท่านั้น ต่อให้บุคคลนั้นทำดีจริง ก็มีคนใส่ร้ายป้ายสีได้ เหมือนต้นไม้ เมื่อได้มีโอกาสเจริญเติบโตขึ้นมา เหล่าหนอน แมลงต่างๆ ย่อมมากัดแทะและทำลาย

ดาวต่อไปคือดาว ๕  เป็นดาวแห่งสติปัญญาความรู้ ประสบการณ์ ซึ่งจะบ่งบอกว่า”เจ้าชะตาจะต้องมีความรอบรู้ มีประสบการณ์สูงและมีความชำนาญเฉพาะทาง”   ซึ่งตรงนี้อาจจะมองได้ว่า ความรู้ความสามารถความเก่งฉกาจที่เจ้าชะตามีนั้น ได้รับความนิยม ความเคารพยกย่อง เพราะความรอบรู้ จากสติปัญญาของเจ้าชะตาเอง

สติปัญญาและความรอบรู้ที่เกิดจากดาว ๕ นั้น มิใช่เพียงแค่การศึกษาในสถาบันหรือมีการศึกษาสูง แต่ความรู้ของดาว ๕ เกิดจากการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ จนเกิดความชำนาญเป็นพิเศษ อาจจะเป็นความสามารถส่วนตัวที่ลอกเลียนแบบได้ยาก หรือจากประสบการณ์ที่สะสมมานานหลายๆปี

แต่ชะตานี้ขาดดาว ๗ ซึ่งเป็นดาวที่เกี่ยวกับเรื่องหลักทรัพย์ ที่ดินและข้าทาส บริวาร จึงทำให้ไม่ถือว่าได้องค์เกณฑ์โดยสมบูรณ์  ถึงแม้จะมีความรู้ดี มีชื่อเสียง แต่การสร้างฐานะหรือความเป็นปึกแผ่นมั่นคงให้กับตัวเองนั้นค่อนข้างยาก ประมาณว่ามีเงินใช้ แต่ยังไม่มั่งคั่ง แต่ก็ยังถือได้ว่า ชะตานี้เป็นดวงที่มีวาสนาดีดวงหนึ่ง เพราะสามารถใช้สติปัญญาความรู้ที่มีนำพาตัวเองให้มีชื่อเสียง และไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้

จากหลักที่ได้กล่าวข้างต้นของดวงตัวอย่างนี้ ถ้าท่านผู้อ่านที่เคยศึกษาเรื่องดาวองค์เกณฑ์มาบ้าง และเกิดข้อสงสัยหรือติดขัดปัญหาบางประการ ขอให้นำหลักของบทความนี้ไปพิจารณาศึกษาดูอาจจะคลายข้อสงสัยลงไปบ้าง  ส่วนผู้ที่ศึกษาโดยเฉพาะดวงของตัวเอง หากดวงของท่านมิได้มีดาวเกณฑ์ใดๆ เพราะไร้วาสนา ฟ้าไม่ส่งให้เกิดมาดังแบบดวงตัวอย่าง อย่าเพิ่งท้อใจเพราะยังมีดาวอีกหลายดวงที่สามารถทำประโยชน์ให้กับตัวท่านเองได้ จงพิจารณาและเลือกใช้ประโยชน์ตามความหมายดาวนั้น หากมีโอกาสผู้เขียนจะกล่าวถึงเกณฑ์อื่นๆ ที่มีข้อสงสัยต่อไป …ความรู้เป็นสิ่งที่สามารถมอบให้แก่กันได้ โดยที่ไม่มีวันหมดไปจากตัวเอง/.

 

ป้ายกำกับ: , , , , , ,